เป็นเรื่องปกติของคนทำงานที่บางวันทำงานด้วยความสุขตลอดวัน และกลับมีบางวันที่ขุ่นมัวอารมณ์เสียตั้งแต่เช้าจรดเย็น สาเหตุสำคัญที่ทำให้เราอารมณ์เสียมาจากการเร่งรีบในตอนเช้า เช่น เสียงนาฬิกาปลุก การเร่งรีบอาบน้ำ รีบทานข้าว รีบขับรถไปทำงานโดยต้องฝ่าการจราจรแสนติดขัด การต้องผจญสิ่งกวนใจต่าง ๆ กว่าจะถึงที่ทำงานเหล่านี้ ทำให้เช้าวันใหม่ของคุณไม่สดใสอย่างที่ควรจะเป็น คงไม่มีใครอยากอารมณ์เสียและรู้สึกไม่มีความสุขระหว่างการทำงานตลอดวัน เราลองมาหาวิธีง่าย ๆ ที่จะคืนความสุขทุกวันทำงานกันดีกว่า
ตื่นให้เช้าขึ้น 10 นาที เนื่องจากทุกเช้าเรามีสิ่งที่ต้องเร่งรีบทำมากมาย แต่ถ้าเรามีเวลาเพิ่มขึ้นอีกสัก 10 นาทีก็คงจะดีไม่น้อย ความเร่งรีบจะลดน้อยลงเพราะมีเวลามากขึ้น ความเครียดจากการต้องเร่งรีบก็จะลดน้อยลง ซึ่งจะช่วยให้เช้าวันใหม่สดใสกว่าเดิม
อย่าทำอะไรมากเกินไป จำไว้ว่าทุกเช้าเรามีเวลาจำกัด ดังนั้นอย่าได้เคร่งครัดว่าจะต้องทำโน่นทำนี่ทำทุกอย่างให้เสร็จสมบูรณ์ ขอให้เปลี่ยนมาเป็นทำพอประมาณ และที่สำคัญอย่าได้กำหนดกิจกรรมยามเช้าที่มากเกินความจำเป็น เช่น กำหนดไว้ว่าต้องออกกำลังกาย 30 นาที ทำกับข้าว ต้องไปใส่บาตร พาน้องหมาไปเดินเล่น รดน้ำต้นไม้ ล้างจาน ซักผ้า ฯลฯ คือมีกิจกรรมมากมายเสียจนเวลาแทบจะไม่พอ อันนี้แหละจะทำให้คุณเคร่งเครียดเกินไป ต่อแต่นี้ลองเลือกเฉพาะกิจกรรมสำคัญจริง ๆ แล้วทำพอประมาณเท่าที่ทำแล้วมีความสุข
ทำจิตใจให้เบิกบานทุกเช้า แค่ลืมตาตื่นนอนตอนเช้า สมองก็เหมือนขวดที่ถูกเปิดจุกออก ความคิดต่าง ๆ ฟุ้งกระจายมากมาย หลายคนมักคิดถึงปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า บางคนก็เริ่มคิดถึงเรื่องกลัดกลุ้มวันวาน บ้างก็คิดถึงปัญหาวันพรุ่งนี้ ความคิดที่ทุกข์ใจล่วงหน้าล้วนทำให้เช้าในชีวิตไม่สดชื่นทั้งสิ้น ต่อแต่นี้อย่าได้เริ่มต้นทุกเช้าด้วยความคิดที่ทำให้เครียด แต่ขอให้กำหนดลมหายใจเข้าออกสัก 10 นาทีเพื่อเรียกความสงบสดชื่นกลับคืนมา แล้วคุณจะค้นพบความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ตลอดทั้งวันมีความสุข
ยามเช้าไม่ใช่เวลาเร่งด่วนของ email line facebook ยามเช้าของบางคนถูกแย่งเวลาโดยโซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งเวลาอันน้อยนิดก่อนไปทำงานนั้นไม่ใช่เวลาเร่งด่วนที่เราต้องรีบอ่านสิ่งเหล่านี้ บ่อยครั้งข้อความและข่าวสารบางอย่างทำให้เรารู้สึกอารมณ์เสียแต่เช้าโดยไม่จำเป็น
มีความสุขกับสิ่งรอบข้าง เช้าวันใหม่มักมีอะไรใหม่ ๆ เสมอ ขอให้คุณลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลองสังเกตสิ่งรอบข้าง หัดมองธรรมชาติรอบตัว มองฟ้า ฟังเสียงนก มองผู้คนรอบตัว หัดยิ้มให้คนอื่น มองโลกในแง่ดี และเช้าวันใหม่ของคุณจะสดใสขึ้น
“การเริ่มต้นดีเท่ากับทำสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง” คำกล่าวนี้น่าจะเป็นจริงโดยแท้ เพราะหากเริ่มต้นทุกเช้าด้วยความสดใส ก็เท่ากับคุณเริ่มต้นมีความสุขแล้ว เหลืออีกค่อนวันก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว ที่คุณจะมีความสุขในการทำงาน
ทีมา: hehaworkplace.com