ผู้ประกอบการขั้นเทพ – Advanced Entrepreneurship
อะไรที่ทำให้ผู้ประกอบการประสบความสำเร็จ? หลายต่อหลายท่านพยายามค้นหาคำตอบแต่ก็มีน้อยคนนักที่ค้นพบความจริงแล้วสามารถแยกแยะระหว่างผู้ประกอบการที่ดีกับผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ได้
จากสามทศวรรษที่ผ่านมาในการทำงานของผู้เขียนกับบริษัทก่อตั้งใหม่ในฐานะผู้ก่อตั้งหรือสมาชิกทีมงานก่อตั้งบริษัทกว่า 10 แห่ง(และเป็นที่คำปรึกษาอีกหลายบริษัท) ผู้เขียนเชื่อว่าผู้ประกอบการยิ่งใหญ่เข้าใกล้งานของพวกเขาด้วยความคิดที่แตกต่างกันมากกว่าผู้ประกอบการที่ดี ผู้ประกอบการที่ดีสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ แนวทางปฏิบัติที่ชาญฉลาดใน และการขับเคลื่อนธุรกิจที่ดีที่สุดในการสร้าง บริษัทของตน ผู้ประกอบที่ยิ่งใหญ่ก็ทำเช่นนี้ แต่พวกเขาก็รู้ด้วยว่าในระยะเริ่มต้นของ บริษัท บางครั้งต้องใช้วิธีการแบบเดิมๆให้น้อยลง พวกเขาเพิ่มวิธีการหรือชุดเครื่องมือของพวกเขาที่จัดการความวุ่นวายของการเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทในช่วงเริ่มต้นขึ้นด้วย
ในชุดของโพสต์บล็อกของผู้เขียนจะสำรวจกลยุทธ์เหล่านี้และวิธีการปลูกฝังความเป็นผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ เข้าไปในจิตใจ โดยเริ่มต้นในสัปดาห์นี้กับ รายละเอียดงาน (Job Description) ของผู้ประกอบการซีอีโอ (Entrepreneur CEO)
ผู้ประกอบการเป็นซีอีโอโดยพฤตินัยอยู่แล้ว แต่โดยส่วนใหญ่ ซีอีโอ (และอาจหลายๆท่าน) ไม่ทราบจริงๆแล้วสิ่งนี้หมายถึงอะไรในแต่ละวัน ถ้าจะสังเกตสักหน่อย ซีอีโอต้องตัดสินตัวเองว่าพวกเขาใช้เวลาได้ดีเพียงใด บางคนใช้เวลาหาพื้นที่ทำงานที่สมบูรณ์แบบ คนอื่น ๆ หลงใหลในสเปรดชีตและคำนวณเงินที่จะได้ไม่กี่บาท หรือเงินที่เสียให้กับบาร์เทนเดอร์ของพวกเขาในพับหรือเรื่องไร้สาระอื่นๆ อีกทั้งเขายังมอบหมายงานรายละเอียดทางการเงินเหล่านั้นให้กับผู้อื่นและใช้เวลาทำข้อเสนอย่างยาวนานอีกด้วย
แล้วอะไรที่ CEO ควรทำละ?
สาระสำคัญของการทำงานของ CEO ต่อไปนี้คือสิ่งที่ไม่สามารถมอบหมายให้ผู้อื่นทำแทนได้:
การกำหนดกลยุทธ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะต้องมีบทสรุปสุดท้ายเกี่ยวกับกลยุทธ์ของ บริษัท กลยุทธ์ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การสร้างวิสัยทัศน์ของ บริษัท เพื่อตัดสินใจว่าจะเข้าสู่ตลาดใด แม้ว่าผู้อื่นจะให้คำแนะนำแก่ CEO หรือคณะกรรมการบริหาร เพื่อได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้าย แต่ก็ยังคงเป็น CEO ผู้ประกอบการซึ่งกำหนดงบประมาณ สร้างพันธมิตร และจ้างทีมเพื่อขับเคลื่อน บริษัท ให้เหมาะสม
การสร้างทีม
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้คนต่างเชื่อว่า บริษัท ขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องสร้างทีมงานมากนัก หลังจากนั้นต่างหากที่จำเป็น แต่ก็รู้สึกเหมือนกับเดวิดที่ต้องสู้กับโกลิอัทใช่มั้ย? (เด็กน้อยที่ต้องสู้กับยักษ์ใหญ่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล) ไม่ถูกต้องซะทีเดียว เมื่อมีคนสองคนอยู่ในห้อง พลวัตของทีมจะปรากฏขึ้น เป้าหมายต้องสอดคล้องกัน วาระการประชุมต้องมีการตอบสนอง และความขัดแย้งต้องมีการแก้ไข แม้ว่า ผู้ประกอบการคนเดียว “solopreneurs” ที่ outsource ทุกอย่างต้องประสานงาน outsourcers ทั้งหมดของพวกเขา ซีอีโอยังเป็นคนเดียวที่สามารถจ้าง เลิกจ้างและจัดตำแหน่งทีมงานในระดับอาวุโสได้
การกำหนดวัฒนธรรม
วัฒนธรรมก็ปรากฏขึ้นทันทีที่คุณมีคนสองคนอยู่ในห้อง หรือบางครั้งแม้แต่คนเดียว (แต่เราเรียกว่า “บุคลิกภาพ”) วัฒนธรรมที่ไม่ดีสามารถขับไล่ พนักงานที่มีคุณภาพสูงในขณะที่สถานที่ที่ดีในการทำงานจะสามารถดึงดูดและรักษาสิ่งที่ดีที่สุดได้ วัฒนธรรมมีการกำหนดไว้ในช่วงต้น ๆ และทุกๆคนก็มองว่าซีอีโอเห็นว่าอะไรเป็นที่ยอมรับได้ก็จะเริ่มสร้างเป็นวัฒนธรรม เช่นถ้าเธอโยนความโกรธแค้นไปที่คนอื่นๆ ? สิ่งนี้ก็จะส่งสัญญาณว่าอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นเรื่องที่ดี ดังนั้น CEO จะต้องเป็นต้นแบบให้กับพนักงานนั้นเอง
นโยบายเกี่ยวกับความก้าวหน้าในสายงาน การรับรู้ผลงาน และการตัดสินใจยังเป็นปัจจัยกำหนดวัฒนธรรมองค์กร
ซีอีโอสามารถอนุมัติหรือไม่ชอบนโยบายใด ๆ ได้และมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะได้ยอมรับผลกระทบทางวัฒนธรรมนั้นๆด้วยหรือไม่ (หรือไม่เช่นนั้น CEO จะต้องสร้างวัฒนธรรมที่ไม่สนใจผลกระทบจากวัฒนธรรม!)
การสื่อสาร
อนาคตของ บริษัท ที่เพิ่งก่อตั้งจะยังคงไม่แน่นอนมีความแปรปรวนและทุกคนมองมาที่ซีอีโอขอความเชื่อมัน เพื่อรับรองว่า บริษัท จะสามารถให้บริการตามสัญญาได้ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม ทำให้ซีอีโอรับผิดชอบโดยตรงต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ได้แก่ พนักงานนักลงทุนซัพพลายเออร์ลูกค้าและคู่ค้า ถ้าเขาไม่สื่อสาร หรือติดต่อสื่อสารได้ไม่ดี เขาจะสามารถทำลาย บริษัท ทั้ง บริษัท ได้ในพริบตาเดียว
การสร้างเครื่องสร้างรายได้
เป้าหมายของซีอีโอผู้ประกอบการคือ บริษัท ที่สามารถรักษาตัวเองโดยการสร้างรายได้ที่เพียงพอ และเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงการหารายได้ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ในกระบวนการนี้พวกเขาอาจต้องระดมทุนเพิ่มเพื่อให้ธุรกิจยังคงมีชีวิตอยู่รอดต่อไปจนกว่าจะมีความยั่งยืน ผู้ประกอบการรายใหม่ส่วนใหญ่มักขุ่นเคืองกับการเพิ่มเงินสดในช่วงเริ่มแรก ใช่ เงินเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและไม่ค่อยพูดถึงคือ การหารูปแบบธุรกิจการ กระจายสินค้า บริการ และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ที่จะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
การจัดสรรทรัพยากร
ในตอนท้ายของวันซีอีโอตัดสินใจว่าจะใช้เงินไปเท่าไร พวกเขาต้องการจัดการการลงทุนในรูปแบบต่างๆที่ทำให้ บริษัท ก้าวไปข้างหน้ามากที่สุด ในสภาวะข้อจำกัด
หกพื้นที่เหล่านี้ประกอบเป็นหัวใจสำคัญของงานของซีอีโอและผู้ประกอบการ
เมื่อท่านอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ก็อยากทดสอบว่าเรามีความพร้อมจะเป็นผู้ประกอบการหรือยัง ท่านสามารถทำ แบบทดสอบความพร้อมของผู้ประกอบการ ตามลิงค์นี้ได้เลยคะ ซึ่งผลการทดสอบจะแบ่งเป็น 4 เกรด นะคะ
ที่มา: Stever Robbins, Harvard Business Review
…………………………………………………………….
อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่
…………………………………………………………….
สนใจสินค้าสามารถเข้าชมได้ที่
ให้คุณได้รับข่าวสารสินค้าใหม่และโปรโมชั่นพิเศษก่อนใคร
แอดมาเลย ที่ @pakoeng (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะ)