นิทานสอนใจ ในวันที่เราท้อแท้ เราจะเลือกเป็นแบบไหน?

เคยท้อแท้มั้ยครับ เคยรู้สึกผิดหวัง เคยรู้สึกว่าทุกอย่างไม่ได้ดั่งใจ ฯลฯ หรือไม่ครับ แล้วเมื่อเราท้อแท้ เราทำอย่างไรกันครับ บางคนหมดแรงไปเลยก็มี บางคนก็แปลงความท้อแท้นั้นให้เป็นพลังเพื่อที่จะลุกขึ้นก้าวเดินต่อไปใหม่ ทุกอย่างล้วนอยู่ที่จิตใจของเราทั้งสิ้นครับ วันนี้ก็เลยเอาเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกันอีกเช่นเคยครับ เกี่ยวกับเรื่องของความท้อแท้นี่แหละครับ

วันหนึ่งลูกสาวพร่ำบ่นถึงชีวิตอันแสนลำเค็ญให้พ่อฟังว่า เธอกำลังรู้สึกอับจนปัญญาที่จะจัดการกับชีวิตและปรารถนาที่จะยอมแพ้พ่าย ด้วยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้และการแข่งขัน ประหนึ่งว่าเมื่อสางปัญหาหนึ่งเสร็จสิ้น อีกปัญหาหนึ่งก็ก้าวเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ

ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นพ่อครัวจึงเดินนำเธอเข้าไปในครัว จัดแจงต้มน้ำในหม้อ 3 ใบด้วยไฟแรงจนน้ำเดือด

เขาใส่แครอทในหม้อใบแรก วางไข่ลงในหม้อใบที่สอง และตักกาแฟลงไปในหม้อใบสุดท้าย แล้วปล่อยให้มันต้มไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำอธิบายให้กับลูกสาวเลย

ฝ่ายลูกสาวเริ่มรู้สึกหงุดหงิด และหมดความอดทน ทั้งยังสงสัยว่าพ่อกำลังทำอะไร 20 นาทีผ่านไป พ่อก็ปิดเตาแก๊ส ตักแครอทขึ้นมาวางไว้ในชาม นำไข่วางไว้ในชามอีกใบหนึ่ง และตักกาแฟไว้ในชามสุดท้าย แล้วหันไปถามลูกว่า

“ลูกเห็นอะไรบ้าง”

“แครอท ไข่ กาแฟ” เธอตอบ

เขาจึงขอร้องให้เธอสัมผัส

แครอท เธอจึงรู้ว่ามันนิ่ม แล้วเขาก็ให้ลูกสาวตอกไข่ เมื่อเธอแกะเปลือกไข่ออก ก็พบว่าไข่นั้นได้ต้มจนสุกแล้ว ท้ายที่สุดเธอให้ลูกสาวลองจิบ กาแฟ ดู เธอยิ้มและลิ้มรสอันหอมกรุ่นนั้น

แล้วก็ถามพ่อ ว่า “นี่หมายความว่าอย่างไรเหรอคะคุณพ่อ?”

 

พ่ออธิบายว่า “เราได้กระทำต่อ 3 สิ่งนี้ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน นั่นคือ น้ำเดือด แต่ผลลัพธ์มันกลับแตกต่างกัน จากเดิม แครอท ดูแข็งๆ และไม่โอนอ่อนผ่อนตาม พอผ่านการต้มมันกลับนิ่มและดูอ่อนปวกเปียก

ไข่…ซึ่งดูบอบบาง มีเพียงเปลือกบางๆ คอยห่อหุ้มของเหลวภายใน แต่น้ำเดือดทำให้ของเหลวนั้นกลับแข็งขึ้น

ขณะที่กาแฟกลับมีลักษณะเฉพาะตัวตลอดกาล เมื่อมาเจอน้ำเดือด น้ำต่างหากที่แปรเปลี่ยนไป

 

พร้อมกันนี้ พ่อยังถามลูกสาวว่า “แล้วลูกล่ะเมื่อความทุกข์มาเยือน ลูกจะเตรียมรับมืออย่างไร ลูกจะเป็นแครอท ไข่ หรือ กาแฟ”?

ถ้าเป็น “แครอท” แม้จะดูแข็งโป๊ก แต่เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ยากนานาก็จะเฉา อ่อนแอ และสูญเสียเรี่ยวแรง และกำลังไป

หรือจะเป็น “ไข่” ซึ่งดูสามารถปรับสภาพได้ในตอนแรก แต่หลังจากที่ต้องเผชิญกับความเป็นความตาย การแตกแยก การหย่าร้าง หรือความผิดหวังอื่นๆ แม้เปลือกภายนอกยังดูคงเดิม แต่หัวใจ และจิตวิญญาณก็อาจปวดร้าว และแข็งกระด้างขึ้นก็เป็นไปได้

หรือหากเป็นเหมือน “กาแฟ” เมื่อเจอน้ำเดือดอันนำมาซึ่งความเจ็บปวด แต่ ณ อุณหภูมิสูงสุด 100 องศาเซลเซียส กาแฟกลับทำให้น้ำมีรสชาติดีขึ้น นั่นแปลว่า หากเราเป็นดั่งกาแฟ เมื่อถึงภาวะที่เลวร้ายที่สุด นอกจากจะสามารถจัดการกับชีวิตตนเองได้แล้ว ยังสามารถทำสิ่งรอบข้างให้ดีขึ้นได้ด้วย

แล้วเราล่ะครับ อยากจะเป็นแบบไหนดีครับ

 

ที่มา:soccersuck.com

 

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่

www.pakoengineering.com/blog

สนใจสินค้าคลิก

www.pakoengineering.com หรือ www.pako.co.th

ช่องทางใหม่ล่าสุด Line@

@pakoeng (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะ)

Line ID : pagoeng
Mobile: 09-4690-4630
Tel. 0-2041-5092
Fax. 0-2041-5093
E-Mail. sales@blog.pako.co.th

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *