ในช่วงนี้การส่งพัสดุนั้นมีมากกว่าเมื่อก่อนมาก เนื่องจากการเกิดขึ้นของธุรกิจ Online ต่างๆ ที่มีความนิยมสูง ใครๆก็สามารถขายของได้ แต่ก็ยังมีบ่อยครั้ง ที่เราจะได้พบกับการบรรจุกล่องพัสดุที่ไม่ค่อยดี และไม่ค่อยแข็งแรง ไปจนถึงตัวกล่องและของข้างในเกิดความเสียหาย ทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมายมาย วันนี้ Pako มีทริคในการส่งพัสดุแบบมืออาชีพ ให้ทั้งมือเก่าและมือใหม่ในการจัดเตรียมการส่งพัสดุให้ถึงมือผู้รับอย่างแข็งแรงและปลอดภัยที่สุดมาฝากกันจ้า

กล่องมีหลายขนาด เลือกให้เหมาะสมกับของที่เราจะส่ง

1.เลือกขนาดกล่องให้เหมาะสม

การเลือกขนาดกล่องให้พอดีนั้น ต้องบอกเลยว่ามีความสำคัญอย่างมากเหมือนกัน แต่มักจะคิดกันว่าไม่เป็นไร ขอแค่ใส่เข้าไปได้ก็พอ ซึ่งขนาดที่เหมาะสมนัั้น ควรจะเขย่าแล้วมีพื้นที่ในกล่องเหลือไม่ต้องมากนัก และต้องไม่แน่นจนเกินไปด้วย เพราะถ้าหากมีพื้นที่เหลือเยอะหรือแน่นเกิยไป จะเสี่ยงต่อการที่ของจะถูกกระแทกจนแตกหักได้ง่าย ในการคำนึงถึงพื้นที่นั้น นอกจากจะเพิ่มเรื่องความแข็งแรงแล้ว ยังช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของก่องพัสดุ ทำให้ราคาค่าจัดส่งถูกลงด้วย

ตัวอย่าง Bubble กันกระแทก

2.เลือกใช้วัสดุกันกระแทกที่เหมาะสมเช่นกัน

วัสดุกันกระแทกนั้นก็มีหลายแบบให้เลือกใช้ ซึ่งสิ่งที่เราควรคำนึงคือ ช่องว่างในกล่องเราเหลือมากน้อยเพียงใด และสิ้นค้าเราเป็นแบบไหน ซึ่งตัวอย่างวัสดุที่นิยมนำมาใช้ใส่กันกระแทก ได้แก่

การ Recycle กล่องที่นิยมนำมาใช้เป็นกล่องพัสดุ เช่น กระดาษลังเก่า, กล่องพัสดุที่เคยใช้แล้ว

3.กล่องเก่าไม่ควรใช้ ?

ในการขายของนั้น เรื่องภาพลักษณ์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน กล่องใหม่ๆ สมบูรณ์แข็งแรง ก็เหมือนทำให้ลูกค้าพอใจไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือ การรองรับแรงกระแทกในการจัดส่งต่างหาก เพราะกล่องเก่าที่มีรอยยับรอยย่นก็อาจจะเกิดความเสียหายได้ง่ายกว่ากล่องใหม่ๆที่ยังไม่เคยใช้งาน แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้กล่องเก่าจริงๆ ก็ควรจะใช้วัสดุกันกระแทกต่างๆในการเสริมความแข็งแรง

ของเหลวที่นิยมส่งกัน เช่น น้ำดื่ม, น้ำหอม, ครีมทาผิว

4.คำนึงถึงของที่จะส่งด้วย

เช่นถ้าเราต้องการส่งสินค้าที่เป็นของเหลว เช่น น้ำดื่ม หรือ ครีม ต่างๆ ก็ควรจะนำเทปกาวมาปิดในส่วนฝาให้เรียบร้อย และห่อด้วยพลาสติกอีกชั้น เพื่อป้องกันการกระแทก และเสียหาย จนของเหลวข้างในไหลออกมาจากบรรจุภัณฑ์

เขียนเบอร์โทรศัพท์ใส่ไว้ในช่องเสมอ ทั้งผู้ส่ง และผู้รับ

5.ใส่เบอร์โทรศัพท์ทั้งสองฝ่ายไว้เพื่อความรวดเร็ว

รวดเร็วทั้งในเรื่องการแก้ปัญหาและการจัดการ เช่น หาบ้านผู้รับไม่เจอ , ของถูกตีกลับไปหาผู้ส่ง , หรือส่งมาแล้วไม่มีผู้รับของ พนักงานก็สามารถโทรเพื่อสอบถามได้เลย โดยส่วนตัวผู้เขียนเอง เคยลืมให้เบอร์โทรศัพท์แก่ผู้ส่งของมา แล้วก็แปลกใจทำไมของมาไม่ถึงซักที จนสุดท้ายของถูกตีกลับไปหาผู้ส่ง เพราะทางไปรษณีมาส่งแล้วไม่มีผู้รับ ทำให้เสียเวลาไปฟรีๆ และยังต้องเสียค่าส่งใหม่อีกด้วย

สามารถดูสินค้าและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

www.pakoengineering.com

PAKO ENGINEERING

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *