จาระบี (Grease) คือ ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่มีลักษณะกึ่งของแข็งและกึ่งของเหลว เป็นส่วนผสมของน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน สารเพิ่มคุณภาพทางเคมีและสบู่ น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานที่ใช้ทำจาระบีมักเป็นพวกที่มีดัชนีความหนืดสูง เพื่อให้สามารถใช้ได้ทั้งอุณหภูมิสูงและต่ำในบางที่ที่ไม่สามารถใช้น้ำมันหล่อลื่นได้
คุณสมบัติของจาระบี
ความอ่อนแข็ง (Consistency)
ความอ่อนหรือแข็งของจาระบี วัดได้โดยการปล่อยให้เครื่องมือรูปกรวยปลายแหลมจมลงในเนื้อจาระบีที่อุณหภูมิ 25°C เป็นเวลา 5 วินาที และวัดความลึกเป็น 1/10 ของมิลลิเมตร ถ้ากรวยจมลงได้ลึกมากก็แสดงว่าจาระบีอ่อนมาก
สถาบันจาระบีในสหรัฐฯ (National Lubricating Grease Institute ชื่อย่อ NLGI) ได้กำหนดเบอร์ของจาระบีไว้ดังนี้
https://bit.ly/2m5l3mo
เบอร์จาระบี จะแสดงว่าเมื่อเบอร์จาระบีสูงขึ้น จาระบีจะมีสภาพแข็งขึ้น ส่วนระยะจมนั้นแสดงถึงความลึกของกรวยที่จมลงในจาระบี ถ้าระยะจมมาก แดสงว่าจาระบีมีสภาพอ่อนนิ่มกว่าระยะจมน้อย ความอ่อนแข็งของจาระบีขึ้นกับเปอร์เซนต์ของสบู่และความหนืดของน้ำมันพื้นฐาน
ภาพแสดงเครื่องทดสอบความอ่อนแข็ง
จุดหยด (Drop Point)
คือ อุณหภูมิที่จาระบีหมดความคงตัว กลายเป็นของเหลวจนไหลออก ดังนั้นจุดหยด จึงเป็นจุดบ่งบอกถึงอุณหภูมิสูงสุดที่จาระบีทนได้ โดยทั่วไปอุณหภูมิใช้งานจะต่ำกว่าจุดหยด 40° – 65°C การใช้จาระบีในที่อุณหภูมิสูงๆจึงต้องพิจารณาถึงจุดหยดด้วย
สารเพิ่มคุณภาพ (Additives)
สารเคมีเพิ่มคุณภาพที่ผสมลงในจาระบี จะมีผลต่อสภาพการใช้งาน ได้แก่ สารรับแรงกดแรงกระแทก (Extreme Pressure หรือ EP) สารป้องกันสนิมและกัดกร่อน เป็นต้น ถ้าจาระบีใช้ในงานพิเศษบางชนิดอาจผสมสารหล่อลื่นอื่นลงไปด้วย เช่น โมลิบดีนั่ม ไดซัลไฟต์ หรือ กราไฟต์
การเลือกใช้จาระบี
จาระบีที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดมีอยู่หลายประเภท ควรเลือกใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งานดังนี้
- สัมผัสกับน้ำและความชื้นหรือไม่ ถ้าสัมผัสหรือเกี่ยวข้องต้องเลือกใช้จาระบีประเภททนน้ำ ถ้าเลือกใช้ผิดประเภท จาระบีจะถูกดูดความชื้นหรือน้ำ ทำให้เยิ้มหลุดออกจากจุดหล่อลื่นได้
- อุณหภูมิใช้งานสูงมากน้อยแค่ไหน จุดใช้งานที่อุณหภูมิสูงกว่า80°C ควรเลือกใช้จาระบีประเภททนความร้อน ถ้าเลือกใช้ไม่ถูกต้อง จาระบีจะเยิ้มเหลวไหลทะลักออกมาจากจุดหล่อลื่น
- ในกรณีที่สัมผัสทั้งน้ำและความร้อน ควรเลือกใช้จาระบีประเภทอเนกประสงค์ (Multipurpose)คุณภาพดี หรือ จาระบีคอมเพล็กซ์(Complex)ซึ่งราคาย่อมแพงกว่าจาระบีประเภททนน้ำหรือความร้อนเพียงอย่างเดียว
- มีแรงกดแรงกระแทกระหว่างการใช้งาน ถ้ามีมากควรพิจารณาเลือกใช้จาระบีประเภทผสมสารรับแรงกดแรงกระแทก (EP Additives)
- สภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น ถ้ามีฝุ่นละอองและสกปรกหรืออุณหภูมิสูงมาก จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ต้องอัดจาระบีบ่อยครั้งขึ้น
- การเลือกใช้เบอร์จาระบี วิธีการนำจาระบีไปใช้งานซึ่งมีอยู่หลายแบบถ้าเป็นระบบแบบจุดจ่ายกลาง (Centralized System) ที่ใช้ปั๊มป้อนจาระบีไปยังจุดที่ใช้หล่อลื่นต่าง ๆ ก็ควรใช้จาระบีอ่อน หรือ เบอร์0 หรือเบอร์1 ถ้าอัดด้วยมือหรือปืนอัด อาจใช้เบอร์2 หรือเบอร์3 หรือแข็งกว่านี้ ถ้าป้ายหรือทาด้วยมือความอ่อนแข็งไม่สำคัญมากนัก นอกจากนั้นถ้าเป็นพวกกระปุกเฟืองเกียร์ที่ใช้จาระบีหล่อลื่น ก็ควรใช้จาระบีประเภทอ่อน คือเบอร์0 หรือเบอร์1
ประเภทและชนิดของจาระบี
จาระบีที่มีใช้ และมีการผลิตมาใช้ในทุกวันนี้แบ่งออกได้เป็นหลายชนิด และที่รวบรวมมาได้ในที่นี้ประกอบไปด้วย 5 ชนิดหลัก ได้แก่
- จาระบีแคลเซียม (Calcium Grease)
- จาระบีโซเดียม (Sodium Grease)
- จาระบีอะลูมินัม (Aluminum Grease)
- จาระบีลิเธียม (Lithium Grease)
- จาระบีชนิดอื่น ๆ (Other Grease)
การใช้จาระบี อาจมีข้อเสียอยู่บ้าง คือ ระบายความร้อนได้น้อยกว่าน้ำมันและถ้าใช้มากไปจะทำให้สกปรก ส่วนข้อดีคือ จาระบีสามารถทำหน้าที่เป็นซีลหรือปิดช่องว่างได้ดีและอายุการใช้งานนาน
สามารถดูสินค้าและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pakoengineering.com
โทร : 09-4690-4630, 02-041-5092
อีเมล : Sales@blog.pako.co.th
facebook : PAKO ENGINEERING
Line : pakoeng
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://bit.ly/2MWluL5
https://bit.ly/2J5WdLW
https://bit.ly/2KTw4Fk