วันนี้ทางปาโก้เอ็นจิเนียริ่งมีข้อคิดดีๆเกี่ยวกับการเลือกซื้อบ้านมาฝากทุกคนกันครับ แน่นอนครับว่าคุณคงต้องเคยไปดูบ้านตามโครงการใหม่ๆกันมาบ้างอยู่แล้วใช่ไหมครับ แค่เพียงได้เข้าไปชมโครงการก็คงอยากจะจับจองเป็นเจ้าของในวันนั้นเลยบางท่านอาจจะเข้าไปชมบ้านตัวอย่างในโครงการซึ่งทางโครงการก็ได้ออกแบบบ้านตัวอย่างไว้สวยหรูซึ่งหลายคนอาจจะจินตนาการ คิดออกแบบบ้านของตัวเองไว้คร่าวๆ แต่อย่าลืมนะครับว่าถ้าเราจะออกแบบภายในแบบที่เจ้าของโครงการออกแบบให้เราดู ไม่ว่าจะเป็นการบิลท์อิน (Built in) ต่างๆตามผนัง หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการใส่เข้ามา ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่าในการตกแต่งเนี่ยก็จะต้องเพิ่มเงินอีกประมาณหลักแสนเลยนะครับ
ดังนั้นผมเลยอยากจะให้ทุกๆคนพิจารณากันให้ดีก่อนครับ เพราะว่าเวลาเราซื้อบ้านสิ่งที่เราจะได้คือ บ้านเปล่าครับ ใช่ครับทุกคนอ่านไม่ผิดครับบ้านเปล่า ที่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยมีแต่ประตู หน้าต่าง บันได ห้องน้ำ ที่ทุกคนจะได้มา ส่วนบ้านตัวอย่างที่ทางโครงการแต่งมาก็เป็นเพียงสิ่งนึงที่จะทำให้ลูกค้าหรือเราตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น และเป็นแนวทางให้กับลูกบ้านในการตกแต่งบ้านของตัวเองว่าเราควรจะจัดวางอะไรไว้ตรงไหนก็เท่านั้นเองครับ
หลังจากที่ทุกคนเข้าไปเยี่ยมชมโครงการที่ชอบ สามรถสอบถามพนักงานขายได้เต็มที่ครับไม่ต้องเกรงใจสงสัยอะไรตรงไหนก็ถามไปตรงๆเลยครับเรื่องวัสดุอุปกรณ์ที่ทางโครงการใช้ระยะเวลาในการเสื่อมสภาพของวัสดุ ที่อยากให้ทุกคนถามเพราะว่าบ้านที่เรากำลังจะซื้อมันจะอยู่กับเราไปแทบจะทั้งชีวิต ดังนั้นผมเลยอยากให้ทุกคนคลายข้อสงสัยและเคลียร์ทุกอย่างตั้งแต่วันแรกครับ ถ้าทุกคนพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันที่ข้อแรกเลยครับว่าก่อนจะซื้อบ้านเนี่ยควรเริ่มจากตรงไหนไปชมกันเลยครับ
ขนาดพื้นที่บ้าน
นอกจากเรื่องโครงการของตัวบ้านแล้วสิ่งที่ทำให้ราคาพุ่งสูงก็คือขนาดพื้นที่ดินที่บ้านหลังนั้นๆ ตั้งอยู่ครับ ราคาที่ดินต่อ ตารางเมตรก็จะขึ้นอยู่กับที่ตั้งของโครงการถ้าโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เจริญแล้วราคาที่ดินต่อตารางเมตรก็จะสูงขึ้นตาม ดังนั้นการที่ทุกคนจะซื้อบ้านควรต้องรู้ขนาดที่ดินที่ตั้งของบ้านด้วยครับว่ามีขนาดเท่าไร โดยมีหน่วยวัดเป็น “ตารางวา” นะครับ
ถ้าหลายๆคนสงสัย ก็ไปสอบถามพนักงานขายก็ได้ครับ ว่าราคาที่ดินตรงนี้ราคาตารางวาละเท่าไร แล้วก็ลองคูณจำนวนพื้นที่ดู ส่วนสำคัญเลยคือส่วนที่เหลือจากค่าที่ดินเราก็เอามาคิดเป็นราคาบ้านครับ ลองคิดดูครับว่าเงินส่วนที่เหลือประมาณระดับนี้แล้วต้องจ่ายเงินในส่วนที่เหลือก็คือราคาบ้านลองดูว่าวัสดุและเงินส่วนที่เหลือคุ้มค่าไหม
ในส่วนคำว่า”ตารางเมตร” คือพื้นที่ใช้สอยนะครับ อย่าไปสับสนว่าเป็นพื้นที่ดินล่ะครับ พื้นที่ใช้สอยจะรวมกันทั้งพื้นที่ชั้นบนและชั้นล่างครับ ยิ่งตัวเลขมากๆก็หมายความว่าบ้านของทุกคนใหญ่โตตามครับ
แบบแปลนบ้าน
แบบบ้านเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องใช้ในการประกอบการตัดสินใจครับ อย่างเช่นพวกขนาดหน้ากว้างและความลึกของตัวบ้าน จำนวนที่จอดรถ จำนวนห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว รวมถึงพื้นที่ใช้สอยรอบบ้านด้วย ควรศึกษาทำความเข้าใจโดยละเอียดครับ
เหตุผลคือจะได้ช่วย Support ชีวิตประจำวันของทุกคนภายในครอบครัวด้วยครับ เพราะขนาดครอบครัวของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางครอบครัวเป็นครอบครัว ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ไม่เท่ากัน บางครอบครัวมีลูกบางครอบครัวไม่มี ก็เลือกแปลนบ้านที่เหมาะสมกับครอบครัวตัวเองครับและสิ่งนึงที่อยากให้คำนึงถึงคือ เรื่องของอนาคตด้วยนะครับ บางครอบครัวตอนนี้ยังไม่มีลูกแต่อนาคตนั้นวางแผลนจะมีลูกก็ควรเลือกแบบบ้านที่มีพื้นที่หรือมีห้องสำหรับลูกๆครับ เพราะบ้านที่เราเลือกในวันนี้จะต้องอยู่กับเราไปแทบจะทั้งชีวิตผมเลยอยากให้ทุกคนเลือกแปลนบ้านให้เหมาะกับตัวเองและครอบครัวครับครับ
วัสดุและลักษณะโครงสร้างของบ้าน
จากเมื่อข้างต้นที่กล่าวไปตอนแรกเราจะรู้ราคาที่ดินแปลงที่ซื้อ หักลบกับเรื่องของแบรนด์ของโครงการ ค่าทำเลภายในหมู่บ้าน ถ้าหักออกไปหมดแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่ก็จะเป็นค่าตัวบ้านครับ เราก็ลองมาคิดดูครับว่าวัสดุเทคโนโลยีต่างๆที่ทางโครงการใส่ให้กับบ้านของเรามันคุ้มไหม บางโครงการเทคโนโลยีที่ใส่เข้ามาก็จะมีพวกระบบระบายอากาศในบ้าน ระบบป้องกันความร้อนจากภายนอก หรือบางโครงการ ติดตั้งระบบความปลอดภัยแบบครบครันรอบตัวบ้านมาให้ เช่นพวก Automatic door lock กล้อง CCTV รอบตัวบ้านเป็นต้น ในเรื่องของโครงสร้างก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคำนึงถึงครับ เช่น อิฐที่ใช้ เป็นแบบอิฐมวลเบา หรืออิฐมอญ เราต้องใส่ใจทุกรายละเอียดในบ้านเพราะบ้านคือสิ่งที่เราต้องจ่ายเงินซื้อและต้องใช้ชีวิตที่นี่ไปอีกนานครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวก หรือ “Facilities” ในโครงการรวมไปถึงความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน โครงการที่ทุกคนเลือกควรจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ระบบควบคุมการเข้าออกหมู่บ้านด้วยระบบคีย์การ์ด หรือ พวกระบบ Easy Pass เป็นต้น ในส่วนของพวก ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น Facilities เหล่านี้ถ้ามีก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อลูกบ้านครับ ส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนครับ
ทำเลที่ตั้ง
เรื่องของทำเลที่ตั้งจริงๆแล้วส่วนนี้เนี่ยไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะกว่าที่ทุกคนจะเข้าชมโครงการได้ ก็คงต้องเลือกทำเลที่เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของทุกคนอยู่แล้วถูกต้องไหมครับ บางคนอยากได้บ้านที่ใกล้ที่ทำงาน หรือบางคนอยากได้บ้านที่ใกล้โรงเรียนลูก ก็แล้วแต่ความประสงค์ของแต่ละท่าน
ความคืบหน้าโครงการพร้อมอยู่เมื่อไร
ความต้องการเข้าอยู่อาศัยของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันบ้างคนซื้อบ้านก็ต้องการที่จะเข้าอยู่อาศัยได้เลย หรือบางคนสามารถรอได้อันนี้ก็แล้วแต่บุคคลไป สิ่งที่ผมแนะนำได้คือการสอบถามกับเจ้าหน้าที่โครงการ ว่าเราจะพร้อมเข้าอยู่ได้เมื่อไร ตอบโจทย์กับความต้องการของเราไหม
เจ้าของโครงการคือใคร
เรื่องนี้จำเป็นต้องรู้ประวัติและผลงานเก่าๆ ของเจ้าของโครงการครับเพราะว่ามีมากมายที่โครงการสร้างเสร็จสำเร็จสวยหรู แล้วก็มีหลายโครงการที่ไปได้ไม่ตลอดรอดฝั่งครับ
ส่วนตัวผมเองคิดว่าการที่เราจะซื้อบ้านสักหลังได้ ต้องดูปัจจัยหลายๆอย่างในการเลือกซื้อ ทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน ความคิดเห็นจากคนในครอบครัวอันนี้คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะบ้านที่เราซื้อเราไม่ได้อยู่แค่เพียงคนเดียว ยังมีคนในครอบครัวที่ต้องเข้ามาอาศัยอยู่บ้านนี้กับเราด้วย ควรถามหลายๆความคิดเห็นจากคนในครอบครัวแล้วเอามาพิจรณาดูครับว่าบ้านทกำลังจะซื้อเหมาะสมและได้รับความเห็นด้วยจากคนในครอบครัวของเราหรือไม่
สามารถดูสินค้าและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://bit.ly/2CNDdnJ
https://bit.ly/1G7z9ra
https://bit.ly/2N5DTtn