ความรู้เบื้องต้นเรื่องวาล์ว
วาล์ว คืออะไร ?
วาล์ว (Vavle) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่มีหน้าที่ควบคุมการไหลของของเหลว เช่น น้ำ สารเคมี แก๊ส อากาศ โดยวาล์วจะทำหน้าที่คือเปิดหรือปิดทางเดินของเหลว ควบคุมอัตราการไหลได้ สามารถปรับให้ของเหลวไหลในระดับที่ต้องการ
เปลี่ยนทิศทางการไหลได้โดยง่ายป้องกันการไหลย้อนกลับป้องกันไม่ให้ของเหลวไหลมาผสมกันส่วนการควบคุมการทำงานของวาล์วนั้นมีทั้งวาล์วที่ควบคุมได้เองโดยอัตโนมัติ และวาล์วที่ควบคุมได้โดยใช้มือปรับ
ประเภทของวาล์ว และ ข้อดี-ข้อเสีย ของวาล์วแต่ละชนิดแบ่งออกได้ ดังนี้
1. วาล์วที่ใช้สำหรับเปิด-ปิด (On – Off) ไม่เหมาะกับการเร่งหรี่หรือใช้ควบคุมอัตราการไหล ดังนี้
1.1) Gate Valve เป็นวาล์วชนิดที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดตัวหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไรให้ลองไปดูที่มิเตอร์น้ำประปาหน้าบ้าน ซึ่งท่อน้ำที่ต่อแยกออกมาจากท่อหลัก ก่อนเข้ามิเตอร์จะต้องมีวาล์วปิด-เปิดอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งวาล์วตัวนี้คือ gate valve หรือที่บางคนอาจเรียกว่า”ประตูน้ำ” บางที่ติดตั้ง gate valve ไว้ทางด้านขาออกจากมิเตอร์ด้วย แต่บางที่จะติดตั้ง check valve (วาล์วกันการไหลย้อนกลับ) ไว้ทางด้านทางออกของมิเตอร์ เหตุที่ต้องมีการติดตั้ง gate valve ไว้ก่อนเข้ามิเตอร์เพื่อที่จะได้ถอดมิเตอร์ออกได้ ไม่ว่าจะเป็นการถอดเพื่อ เปลี่ยน ซ่อม หรือโดนตัดน้ำเพราะไม่จ่ายค่าน้ำ
ข้อดี
1. ราคาถูก
2. มีขนาดค่อนข้องบาง มีน้ำหนักน้อย ทำให้เหมาะสำหรับ การติดตั้งในเนื้อที่ค่อนข้างจำกัด
ข้อเสีย
⇒ ใช้กับงานที่ของไหลที่สะอาด ไม่เหมาะกับของไหลที่มีของแข็งหรือมีตะกอนปะปน
⇒ เพราะ ส่วนล่างของวาล์ว อาจจะมีเศษผง เศษของแข็๋งไปกองอยู่ ทำให้ไม่สามารถปิดวาล์วได้สนิท
⇒ ไม่เหมาะกับงานที่มีการกัดกร่อนมากๆ อุณหภูมิ และ แรงดันสูงๆ
⇒ ใช้ในการปิด หรือ เปิด เท่านั้น จะไม่สามารถใช้ในการควบคุมปริมาณการไหลด้วยการเปิดวาล์วครึ่งๆ กลางๆ ได้
1.2) Plug Valve รูปทรงเป็นทรงกระบอก (Cylinder) หรือทรงกรวยตัด (Truncated Cone) เจาะเป็นช่องเพื่อให้เป็นช่องทางการไหลของวาล์ว เรียกว่า “Plug” เนื่องจากทำงานด้วยการหมุนรอบแกนลิ้นวาล์วซึ่งตั้งฉากกับช่องทางการไหล ลิ้นวาล์วจึงสัมผัสกับของไหลขณะทำงาน เมื่อวาล์วอยู่ในตำแหน่งเปิดรูที่เจาะไว้บนลิ้นวาล์วหรือ Plug จะตรงได้แนวเดียวกับทิศทางการไหลของไหล การทำงานของวาล์วชนิดนี้จึงเหมาะใช้เป็นวาล์วปิด-เปิด และเปลี่ยนทิศทางการไหล
ข้อดี
⇒ ขนาดวาล์วไม่ใหญ่ ทำให้ใช้เนื้อที่ในการติดตั้งน้อยกว่าวาล์วชนิดอื่น
⇒ สามารถปิด หรือ เปิด วาล์วได้อย่างรวดเร็ว เพราะ การหมุนก้านวาล์วเพียง 90 องศา
⇒ เหมาะกับงานที่มี ตะกอน หรือ ของแข็งแขวนลอย เพราะ เป็นลักษณะของการหมุนรอบตัวเอง มิใช่การยกขึ้นลง จึงไม่มีโอกาสที่จะมี
⇒ ของแข็ง หรือ เศษผง สะสมอยู่ตรงบ่าวาล์ว
⇒ หมาะกับงานที่มีอุณภูมิสูง แต่มีความดันต่ำ แต่จะไม่เหมาะกับงานด้านไอน้ำ
ข้อเสีย
⇒ วาล์วชนิดที่ต้องใช้สารหล่อลื่น ช่วยในการหมุนวาล์ว ทำให้ตัวสารหล่อลื่น หลุดออก ทำให้เกิดความสกปรกแก่ของไหล
⇒ ต้องมีการเติมสารหล่อลื่นอยู่เป็นระยะๆ ยุ่งยาก และสิ้นเปลือง
1.3) Ball Valve เป็นวาล์วที่ได้รับการปรับปรุงมาจากปลั๊กวาล์ว (Plug Valve) โดยใช้ลิ้นที่มีลักษณะเป็นรูปลูกบอล แทนที่ลิ้นที่มีลักษณะเป็นทรงกระบอก
ทำหน้าที่ ควบคุมปริมาณการไหล ควบคุมแรงดัน หรือ ใช้ในการเปิด-ปิด
⇒ ข้อดี
⇒ ชิ้นส่วนน้อย การบำรุงรักษาได้ง่าย
⇒ วาล์วสามารถใช้ในการหรี่ได้ด้วย
⇒ ใช้งานที่มี ของแข็งแขวนลอยได้ ไม่ตกต้างที่บ่าวาล์ว
⇒ ข้อเสีย
⇒ ขนาดของวาล์วค่อนข้างใหญ่ ใช้เนื้อที่การติดตั้งมาก
⇒ บ่าวาล์ว สึกหรอ ได้ถ้ามีการหรี่วาล์ววบ่อยๆ
⇒ ตอนเปิดวาล์วสนิท อาจมีสารตกค้างเกาะที่ตัวลูกบอลได้
*** ยังไม่สมบูรณ์ ***