โดยทั่วไป Pressure Gauges จะติดตั้งบนงานท่อน้ำของเครื่องจักรหลัก เช่น งานน้ำ,งานลม,งานแก๊ส และอื่นๆ หน้าที่สำคัญของ เพรสเชอร์เกจส์ได้แก่ใช้วัดประสิทธิภาพของเครื่องจักรหลักที่ทำหน้าที่สร้างแรงดันของไหลในระบบ ซึ่งได้แก่ เครื่องสูบน้ำ (Water Pump), เครื่องกำเนิดไอน้ำ (Boiler), เครื่องอัดอากาศ (Air-Compressor) เป็นต้น
เพรสเชอร์เกจส์ ที่ติดตั้งทางด้านท่อดูด จะทราบว่าหัวกะโหลกตันมีเศษขยะอุดตันหรือท่อทางด้านดูดมีการรั่วซึม รวมถึงใบพัดปั๊มน้ำเกิดการอุดตันหรือไม่ ทั้งนี้ในการติดตั้งระบบปั๊มน้ำและเพรสเชอร์เกจส์ครั้งแรก จะต้องอ่านค่าครั้งแรกเอาไว้เพื่อเทียบความแต่ต่างกับ กรณีที่เราใช้งานไปนานๆแล้วค่าตัวเลขของเพรสเชอร์เกจส์มีการอ่านค่าผิดไปจากเดิม
เพรสเชอร์เกจส์ ที่ติดตั้งทางด้านท่อจ่ายจะบอกให้เกษตรกรรู้ว่าระบบท่อจ่ายรั่วซึมหรือชำรุดหรือไม่ประสิทธิภาพของปั๊มน้ำยังคงทำงานได้ดีหรือไม่
ตัวอย่างเช่น ติดตั้งระบบปั๊มน้ำครั้งแรก อ่านค่าจากเพรสเชอร์เกจส์ทางด้านท่อจ่ายได้ 3 บาร์ เมื่อมีการใช้งานไปได้สักระยะหนึ่งความดันที่อ่านได้คือ 1บาร์ ตรงนี้ให้เกษตรกรรู้ได้เลยว่าจะต้องมีการรั่วซึมในระบบทางด้านท่อจ่ายหรือมอเตอร์ปั๊มน้ำมีการอุกตันในใบพัดเป็นต้น
ข้อแนะนำในการติดตั้งเพรสเชอร์เกจส์
- จะต้องติดตั้ง เพรสเชอร์เกจส์ทั้ง2 ด้าน คือด้าน ท่อดูดและด้าน ท่อจ่าย
- ตำแหน่งที่ติดตั้งต้องอยู่บริเวณหน้าแปลนของเครื่องสูบน้ำ ซึ่งโรงงานผู้ผลิตได้เจาะรูและอุดปลั๊กมาให้แล้ว ห้ามติดตั้งหลังอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ข้อต่ออ่อนหรือ วาล์วโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ค่าความดันที่อ่านได้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากไปวัดความดันรวม ความดันตกคร่อม ของอุปกรณ์อื่นๆ ไว้ด้วย
- ต้องจัดทิศทางของหน้าปัทม์ให้อยู่ในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สะดวกในการอ่านค่าความดัน
- สเกลของ เพรสเชอร์เกจส์ที่ใช้ต้องขึ้นอยู่กับแรงดันใช้งานของระบบ ตำแหน่งเข็มของเพรสเชอร์เกจส์ขณะใช้งานควรอยู่ระหว่างกึ่งกลางถึง 60% ของสเกล
- สเกลของ เพรสเชอร์เกจส์ด้านท่อดูดควรจะมีสเกลศูนย์ยากาศอยู่ด้วยโดยเฉพาะท่อด้านดูดที่อยู่ต่ำกว่าตัวเครื่องสูบน้ำ มิฉะนั้นแล้วในขณะที่เริ่มงานค่าความดันด้านท่อด้านดูดอาจมีค่าต่ำกว่าศูนย์ ซึ่งหากไม่มีสเกล Vacuum Pressure อาจจะทำให้เข็มของ เพรสเชอร์เกจส์กระแทกหมุดกั้นทำให้ชำรุดเสียหายได้
- ต้องติดตั้งท่อน้ำทิ้งไว้ด้วยเพื่อทำหน้าที่ระบายน้ำออกจากตัวเพรสเชอร์เกจส์หลังจากอ่านค่าแล้ว ไม่ควรให้เพรสเชอร์เกจส์ทำงานอยู่ตลอดเวลาที่เครื่องสูบน้ำทำงาน เพราะจะทำให้เพรสเชอร์เกจส์มีอายุงานสั้นลง
- ไม่ควรติดตั้งเพรสเชอร์เกจส์บนหลังท่อ โดยเฉพาะท่อน้ำที่ติดตั้งในแนวนอน เพราะหากน้ำในท่อไม่เต็มท่อ จะทำให้ค่าที่อ่านได้ไม่ถูกต้อง ควรติดด้านข้างของท่อเท่านั้น ส่วนท่อที่ติดตั้งในแนวดิ่งจะไม่เกิดปัญหานี้แต่ประการใด แม้กระทั่งที่เครื่องสูบน้ำด้านท่อดูดผู้ผลิตได้เจาะไว้ที่ด้านข้างของหน้าแปลนเช่นกัน เพื่อป้องกันการอ่านค่าไม่ถูกต้อง
สามารถดูสินค้าและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.pakoengineering.com
โทร : 09-4690-4630, 02-041-5092
อีเมล : Sales@blog.pako.co.th
facebook : PAKO ENGINEERING
Line : pakoeng
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://bit.ly/2KQC9ze