การพัฒนาตนเอง

การพัฒนาตนเอง เป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ ทว่า เคยหรือไม่? ลงมือทำหรือยังไม่ทันไร มันเลือนหายไปเสียเฉยๆ ไม่พัฒนา และกลับมาเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น

เราอาจเห็น ฟัง อ่าน จากหลายๆ ผู้รู้ โค้ช หรือสื่อต่างๆ ในแง่การพัฒนาตนเอง วันนี้จึงอยากมานำเสนอหลักการหนึ่ง ซึ่งเป็นเพียง “หนึ่งหลักการในการพัฒนาตนเอง” ไม่ใช่สูตรสำเร็จเสียทีเดียวแต่เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ทำให้ สำเร็จได้แน่นอน!!

ท้าวความไปก่อนว่า ผมใช้หลักการนี้เมื่อครั้ง เลิกบุหรี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับผมในตอนนั้น เพราะ “ไม่มีแรงจูงใจ” ในการที่จะเลิกบุหรี่ แต่กระนั้น เมื่อหาแรงจูงใจได้แล้ว ที่เหลือก็คือ “ลงมือทำ” ซึ่งจะนำมาเป็นตัวอย่างในการใช้เทคนิคนี้กัน

การพัฒนาตนเอง ด้วยเทคนิค สูตร 3 – 7 – 21

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องมีคือ เป้าหมาย ก็หมายถึงสิ่งที่อยากจะทำให้สำเร็จในเรื่องหนึ่งๆ เช่น ฉันจะทำสิ่งนั้นให้เสร็จ สิ่งนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายแบบจับต้องได้ หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม นิสัยของตัวเองก็ตาม

สิ่งต่อมาที่ต้องมีและสำคัญมากคือ แรงจูงใจ ซึ่งจะมาจากการได้อ่าน การได้เห็น การเกิดประสบการณ์ตรง หรือแรงกดดันจากสิ่งแวดล้อมหรือรอบข้างก็ได้ ที่ทำให้เราได้รู้ชัดขึ้นว่าทำเพื่ออะไร? เหมือนกรณีการเลิกบุหรี่ของหลายคนที่ผมได้สอบถาม บ้างก็ได้แรงจูงใจจาก ลูก แฟน หรือสุขภาพของตัวเองเป็นต้น สำหรับผมนั้น ตอนนั้นไม่มีครอบครัว ไม่มีแฟน สุขภาพก็ดี แม้จะสูบบุหรี่มานานร่วม 20 ปี แต่ก็คิดเอาแบบเข้าข้างตัวเอง (ข้ออ้าง) เอาว่า สูบแค่นี้ไม่เป็นอะไร (ผมควบคุมปริมาณการสูบได้ดีวันละไม่ถึง 5 มวนในตอนนั้น) นั่นจึงทำให้ตัวเองไม่มีแรงจูงใจ แต่สุดท้าย ก็สร้างแรงจูงใจเองด้วยความคิดที่ว่า “ถ้าเราจะทำอะไรจริงๆ เราก็ทำได้” เรื่องนี้ก็เช่นกัน แรงจูงใจที่ว่านี้ก็คือ       “เอาชนะตัวเอง” 

นั่นคือสิ่งที่ต้องมีก่อนจะ “ลงมือทำ” ซึ่งหาได้ไม่ยากและเกิดขึ้นมาเองได้ด้วยอยู่แล้วด้วยซ้ำ เมื่อต้องการจะลงมือทำตรงนี้มักจะเกิด อุปสรรค หรือตัวทำลาย เป้าหมาย หรือแรงจูงใจ ให้เหือดหาย หรือไกลออกไปได้ ด้วยหลายๆ เหตุผลจนท้อ จนเลิก หรือ ขี้เกียจ!! ก็ตามที เหล่านี้เองจึงต้องนำมาซึ่งกระบวนการเทคนิคแบบ 3 – 7 – 21

เทคนิค 3 -7 -21 นั่นเป็นเรื่องง่ายๆ แต่มีบางอย่างแฝงอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องนำไปลองทำและจะพบมหัศจรรย์แห่งพลังของเทคนิคนี้ในแบบที่ อะไรที่เคยทำไม่ได้ จะทำได้ขึ้นมา โดยอย่างยิ่ง “การเปลี่ยนแปลงตัวเอง” เหมือนที่ผมใช้มันช่วยเลิกบุหรี่ได้ ที่จริงผมก็ยังนำมาใช้กับเรื่องการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร ก็ใช้ได้ดี มากเสียด้วย

วิธีการ

  1. ต้องมี เป้าหมาย และ แรงจูงใจ
  2. เขียนลงปฏิทิน หรือเขียน ลงกระดาษเหมือนการนัดหมาย ทุก 3 วัน 7 วัน และ 21 วัน
  3. มีรางวัลแต่ละขั้นตอนให้กับตัวเอง
  4. มีข้อห้าม! แต่ละลำดับขั้น
  5. ประกาศความสำเร็จให้คนรอบข้าง และวางเป้าหมายระยะยาวต่อไป
  6. เชื่อในความลับของเทคนิคนี้!! (ความลับอยู่ด้านท้าย)

ตัวอย่าง

สมมติว่าผมวาง เป้าหมาย = เลิกบุหรี่ และ แรงจูงใจ = คือเอาชนะตัวเอง เริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ผมก็จะเขียนในปฏิทิน หรือลงกระดาษแปะไว้ให้เห็นว่า
1 ม.ค. เลิกบุหรี่ เพื่อเอาชนะตัวเอง
3 ม.ค. เลิกบุหรี่ได้ 3 วัน!! (ควรมีการให้รางวัลตัวเองเล็กๆ  หรือจะบอกคนใกล้ตัว คนที่รู้เรื่องถึงความสำเร็จนี้ก็ได้)
10 ม.ค. เราผ่าน 7 วันอันตรายได้แล้ว!! (ต้องมีรางวัลบ้าง หรืออย่างไรก็ต้องบอกใครสักคนเกี่ยวกับเรื่องที่ทำได้นี้)
21 ม.ค. เลิกบุหรี่ได้แล้ว!! เอาชนะตัวเองได้แล้ว

ข้อห้าม! ที่ต้องวางแผนให้ตัวเองเพื่อ “ทำให้เรื่องนี้สำเร็จ” ก็แล้วแต่กรณี เช่นผมเลือกเริ่มต้นเลิกบุหรี่ 3 วันที่จะไม่ต้องไปไหนเลย เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการไปเจอคนสูบบุหรี่ ทิ้งบุหรี่ ไฟเชค ห้ามเห็นสิ่งเหล่านี้ และห้ามดื่ม แอลกอฮอล์ หรือดูหนัง เสพสื่อที่มีภาพการสูบบุหรี่ เพราะมันคือสิ่งกระตุ้นให้ อยากบุหรี่ ภายใน 7 วัน ทำนองนี้

ความลับและเทคนิคเพิ่มเติม

  1. ในการสร้างเป้าหมายในการทำ หรือเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่ต้องรีบคิดว่าตลอดไป เอาแค่ทำได้ 21 วันก่อนก็พอ เพราะลองถามตัวเองว่ากี่ครั้งแล้วที่คิดใหญ่แล้วทำไม่ได้
  2. ใน 3 วันแรกมักจะยากที่สุด และเลิกก่อน ให้หาวิธีดัดแปลง ประยุกต์ และเฝ้ารอวันครบให้พ้น 3 วันให้ได้อย่าหยุดเพราะหากไม่ผ่าน 3 วัน คุณอาจไม่ทำเรื่องนี้อีกเลย!
  3.  หลังจาก 3 วันเราผ่านไปอาจรู้สึกว่าทำได้ แต่ ภายใน 7 วันนี้แหละแรงจูงใจมักจะหมดไป หรือแอบสร้างเงื่อนไขให้เลิกทำ เบื่อแล้ว พอแล้ว เป็นต้น ช่วงนี้ต้องกระตุ้นตัวเอง ว่า อย่าลืม อย่าเพิ่งเลิก ต่ออีกหน่อยให้ได้ ผลลัพธ์มันยิ่งใหญ่ครับ และเตือนเลยว่า 7 วันอันตรายจริงๆ
  4. หลังจาก 3 – 7 วันแล้ว เราอาจต้อง “บังคับ” “ฝืน” “ลำบาก” ในการปรับ เปลี่ยน หรือทำอะไร
  5. ที่ 21 วันนี้มากจากทฤษฎี 21 วัน ของ Dr. Maxwell Maltz ซึ่งเขียนลงในหนังสือขายดีชื่อ Psycho-Cybernetics ในการที่เชื่อว่าสามารถเปลี่ยนนิสัยได้หากทำต่อเนื่องกัน (หลายคนอาจเคยได้ยินว่า ถ้าจะจีบใครให้พยายามชวนเขาคุยให้ได้ทุกวัน 21 วันแล้วเลิกคุยไปเขาจะคิดถึงเราเอง ก็น่าจะนำมาจากหลักการนี้)
  6. บางที บางเรื่อง อาจไม่ใช่เรื่องหลัก เรื่องใหญ่ หรือต้องไปบอกใคร แต่คุณรู้ว่านี่คืออุปสรรคในการพัฒนา หรือทำให้ชีวิตดีขึ้น ดังนั้อาจเป็นเรื่องการทำส่วนตัวก็ได้

หลังจากทำสำเร็จ 21 วัน เราก็อาจตั้งเป้าหมายต่อไป 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ซึ่งตรงนี้ไม่ยากแล้ว เพราะมันปกติไปแล้ว เราก็สามารถไปพัฒนาเรื่องอื่นๆ ได้ต่อไป และเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ(ที่ดี) ของเราไปเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://goo.gl/wYGxtv

https://goo.gl/8vYCbe

https://goo.gl/JRqjgm

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *